เมื่อพี่เอด้า จิรไพศาลกุล ผู้ก่อตั้ง TYPN (Thailand
Young Philanthropist Network) ชวนไปทำนาโยน ดิฉันตอบรับทันที เพราะไม่เคยปลูกข้าว
ที่สำคัญ มั่นใจว่าทริปนี้ต้องได้พบเพื่อนใหม่ที่ใส่ใจเรื่อง “สังคม”
เหมือนกันแน่นอน
TYPN เป็นเครือข่ายคนหนุ่มสาวที่ต้องการสร้างความเปลี่ยนแปลงทางสังคมด้วยทักษะวิชาชีพของตน
พร้อมสนับสนุนให้เกิดกิจการเพื่อสังคม (SE: Social Enterprise) ขึ้นอีกด้วย
SE
เป็นธุรกิจที่สร้างขึ้นมาเพื่อตอบโจทย์ประเด็นสังคมที่ผู้ก่อตั้งเชื่อและศรัทธา
โดยมีโมเดลการทำธุรกิจที่สร้าง impact วัดผลได้
และยั่งยืน
ทริปครั้งนี้เป็นฝีมือจัดของ SE เจ้าหนึ่ง
ชื่อ HIVE เป็นบริษัททัวร์เพื่อสังคม ก่อตั้งโดยสองสาวพี่น้อง อชิและมิ้นท์
อชิเคยทำงานที่ยูนิลีเวอร์ ส่วนมิ้นท์เคยเป็นทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชนที่สหประชาชาติ
โดยมีคอนเซ็ปเสาะหาสถานที่ที่คนไม่ค่อยไป ที่ชาวบ้านทำกิจกรรมที่เหมือนจะธรรมดาแต่ไม่ธรรมดา
มาออกแบบเป็นโปรแกรมเที่ยวที่ hands-on สนุก และเป็นวิถีแบบยั่งยืน (sustainable
tourism) นอกจากจะได้เพิ่มคุณค่าและรายได้ให้กับชาวบ้านแล้ว ยังสร้างความหมายให้นักเดินทางอย่างพวกเราด้วย
ครั้งนี้ HIVE พากลุ่ม
TYPN
ไปทำนาโยนที่กรีนลิฟวิงแคมป์ จ.นครปฐม ถือเป็นฟาร์มข้าวออแกนิกไม่กี่เจ้าที่ผ่านการรับรองระดับโลก
ไม่ใช่แค่ไม่ใส่สารเคมี แต่เป็นการปรับระบบนิเวศโดยรอบให้เป็นไปตามครรลองของออแกนิก
โดยมีกำลังสำคัญเป็นเป็ด 200 ตัว ซึ่งต้องออกจากเล้าไปทำงานทุกวันตอนเก้าโมง
เวลาเป็ดว่ายน้ำเล่น บินเล่น ปีกที่กระพือจะปัดโดนต้นข้าว ไล่แมลงที่ซ่อนอยู่
เท้าคุ้ยดิน กวนวัชพืน และปล่อยปุ๋ย (อึ) ตลอดทาง
ถือเป็นกิจกรรมที่สนุกมาก ได้ประสบการณ์จากทุกประสาทสัมผัส
เพราะทั้งได้ความรู้จากการแลกเปลี่ยนประสบการณ์จากพี่ยุทธและพี่ยุง
สองพี่น้องที่ผันตัวเองมาเป็นชาวนาออแกนิก และได้ลองทำด้วยมือตัวเองด้วย
พวกเราได้ไปตีนา (เตรียมดิน) ถอนกล้า และโยนกล้า
การทำนามีหลายวิธี เช่น หว่าน ปักดำ และโยนนา แต่ถ้าจะปลูกข้าวออแกนิกต้องใช้วิธีโยนนาค่ะ
ความจริงดิฉันเคยโยนกล้าครั้งหนึ่งตอนจัด Nanmeebooks Science Festival ปี 2556 ครั้งนั้นจัดธีม
“เกษตรกรรมลองทำดู” ได้ต้นกล้าจากกรมการข้าวมา 5,000 ต้น
ตอนนั้นไม่เข้าใจ ขอตามจำนวนเด็กนักเรียนที่ลงชื่อมาร่วมงาน ตอนทดสอบกิจกรรม
ก็โยนกันคนละ 1 ต้น เพิ่งมาถึงบางอ้อว่าเวลาโยนจริง ๆ ต้องโยนทีละกำเลยค่ะ สนุกมาก
เพราะต้องลุยโคลนจริง ๆ พวกเราไปกัน 24 คน ยืนเรียงแถวที่ฝั่งหนึ่ง แล้วค่อย ๆ
เดินถอยหลัง ถอยไปด้วย โยนกล้าไปด้วย พอถึงอีกฝั่ง ก็โยนกล้าครบพอดีค่ะ และด้วยกฎของแรงโน้มถ่วง
ตุ้มของต้นกล้าก็จะปักดินพอดีเลยค่ะ มหัศจรรย์เหลือเกิน
ข้าวที่ปลูกคือพันธุ์ปิ่นเกษตร อร่อยมาก และทริปนี้ทำให้ดิฉันรู้ว่าข้าวกล้องงอกก็คือข้าวกล้องที่ผ่านกระบวนการให้งอก
ซึ่งจะให้ประโยชน์ทางโภชนาการมากขึ้น ก่อนหน้านี้ดิฉันนึกว่าข้าวกล้องงอกคืออีกพันธ์
คุณอาจคิดว่าดิฉันเด๋อนะคะ ทำไมไม่รู้ ทริปนี้ทำให้ดิฉันรู้ตัวว่าไม่รู้หลายอย่างมากค่ะ
ประเด็นคือ การที่ได้เรียนรู้ด้วยวิธีที่หลากหลาย ในสถานที่ที่แปลกใหม่
กับกลุ่มคนที่หลากหลาย เป็นกระบวนการเรียนรู้ที่สำคัญและมีประสิทธิผลมากจริง ๆ ค่ะ
นี่คือ project based learning ที่ดีเยี่ยม
พวกเราทั้ง 24 คนมีโจทย์ตั้งต้นที่ไม่เหมือนกัน บ้างสนใจเรื่องข้าวออแกนิก
บ้างสนใจเรื่องกิจการเพื่อสังคม บ้างสนใจเรื่อง sustainable tourism บ้างต้องการเพื่อนใหม่
สารพัดโจทย์มาพร้อมกับกิจกรรมที่หลากหลาย มาพร้อมกับการพูดคุย การแลกเปลี่ยนความคิดเห็น
(ที่มักจะต่างกัน) ลงมือทำจริง
ซึ่งทุกกิจกรรมก็สร้างแรงบันดาลใจให้อยากรู้เรื่องอื่นต่อ เด้งไปเด้งมา จนเมื่อสิ้นวัน
แต่ละคนก็ได้คำตอบที่อาจจะต่างและอาจจะเหมือน เท่านั้นไม่พอ ความประทับใจยังคงอยู่จนอยากมาเล่าต่อให้เพื่อนฟัง
ถือเป็นการตอกย้ำความเข้าใจและความคิดเห็นให้ตัวเองอีกรอบ
อันนี้ใช้วิธีแบบ เลี้ยงเป็ดไล่ทุ่งใช่ป่ะครับ นอกจากเป็ดจะช่วยกินศัตรูพืชอย่างหอยเชอรี่แล้ว
ตอบลบข้อดีอีกอย่าง ตอนเช้าเป็ดมักจะไข่ออกมาด้วย คนเลี้ยงตื่นมาก็เก็บขายได้ตังค์เลย