ยืนหยัดเข้มแข็ง
มีใครเคยถูกข่มเหงรังแก
(bully) บ้าง
หรือมีใครเคยข่มเหงรังแกผู้อื่นบ้าง หลายคนคงจำคุณ นิค วูยิชิช เจ้าของผลงานเรื่อง
“ชีวิตไร้ขีดจำกัด” “หยุดไม่อยู่” และล่าสุด “ยืนหยัด เข้มแข็ง” ได้
คุณนิคไม่มีแขน ไม่มีขา กำเนิดมาพร้อมกับโรค...
ถึงแม้ว่าตอนนี้คุณนิคจะประสบความสำเร็จในชีวิต เป็นนักพูดสร้างแรงบันดาลใจ
ช่วยเหลือคนทั่วโลกนับล้าน มีชีวิตครอบครัวที่อบอุ่น
ภรรยาแสนสวยและลูกที่แสนน่ารัก แต่คุณนิคก็เคยผ่านมรสุมชีวิตมามาก
เคยเกือบยอมแพ้ฆ่าตัวตายด้วยวิธีทำให้ตัวเองจมน้ำระหว่างอาบน้ำ
แน่นอนว่า
คนที่มีรูปกายแตกต่างอย่างเด่นชัดอย่างคุณนิคคงถูกข่มเหงรังแกมากเป็นพิเศษ
ไม่ว่าจะเป็นทางกายภาพหรือทางวาจา แต่แท้จริงแล้วการข่มเหงรังแกมาในหลายรูปแบบ
ลองยกตัวอย่างในโรงเรียนนะคะ เด็กบางคนอ้วนพิเศษ สูงโย่งพิเศษ ผิวขาวพิเศษ (เผือก)
ผิวดำพิเศษ สิวเยอะเป็นพิเศษ ยากจนเป็นพิเศษ รวยเวอร์เป็นพิเศษ
คือแตกต่างจากชาวบ้าน ก็จะถูกล้อเลียน บางครั้งรุนแรง จนทำให้เหยื่อมีปัญหาทางจิต
หรือถูกทำร้ายร่างกายบ้างก็มีเป้าหมาย คือ ทำอย่างไรให้คนที่แตกต่างสามารถอยู่ร่วมกันอย่างเข้าอกเข้าใจได้
ทำอย่างไรให้คนเราไม่ยึด “สิ่งที่เราคิดว่าควรจะเป็น” เป็นสิ่งที่ถูกต้อง
แต่สำคัญที่สุด คือ
ทำอย่างไรให้คนที่ถูกข่มเหงรังแกสามารถยืนหยัดเข้มแข็งจากภายในได้ คุณนิคบอกว่า
“ถ้าคุณโดนข่มเหงรังแก สิ่งแรกที่ต้องเข้าใจคือ การกลั่นแกล้ง คำพูดเยาะเย้ย และการกระทำร้ายกาจของพวกเขาแท้จริงแล้วไม่ได้เกี่ยวข้องกับตัวคุณ หรือความบกพร่องใด ๆ
ที่คุณอาจมีหรือพฤติกรรมใดๆ ของคุณเลย
อันธพาลมีปัญหาของเขาเองจึงแกล้งคุณเพื่อให้ตนเองรู้สึกดีขึ้น เพื่อระบายความโกรธ เพื่อให้รู้สึกมีอำนาจมากขึ้น หรือบางครั้งอาจเพียงเพราะไม่รู้จะทำอะไรดี”
ในงานเปิดตัวหนังสือ
“ยืนหยัด เข้มแข็ง” คุณโรสซาลีน่า อเล็กซานเดอร์ แม็คเคย์ ประธานมูลนิธิ The Rainbow Room
แบ่งปันว่า “เราไม่รู้หรอกว่าจะถูกข่มเหงรังแกเมื่อไร
แต่หนังสือเล่มนี้ช่วยให้วิธีการรับมือกับวิกฤติการณ์ที่คาดไม่ถึงได้อย่างมีเกียรติ
โดยไม่ทำร้ายคนอื่นด้วย”
ในหนังสือ
คุณนิคแบ่งปัน “ระบบป้องกันการข่มเหงรังแกจากภายใน” 10 ข้อ วันนี้ขอเล่าแค่สี่ข้อนะคะ
อันดับแรก เราต้องหาคำตอบให้ได้ว่าเราเป็นใคร อันธพาลจะได้ไม่ทำให้เราไขว้เขว
อันดับที่สอง เราต้องรับผิดชอบพฤติกรรมและความสุขของเราเอง
อันธพาลจะได้ไม่มีอำนาจเหนือเรา อันดับที่สาม กำหนดค่านิยมที่ชัดเจน
จนไม่มีอันธพาลคนไหนมาโยกคลอนได้ อีกข้อ คือ สร้างพื้นที่ปลอดภัยภายใน
เป็นที่ที่ไม่ให้อันธพาลหรือใครที่ไหนทำให้เรารู้สึกแย่ได้
ด้วยข้อสุดท้าย
คุณนิคยังมีตัวอย่างคำถามที่ให้เราถามตัวเองเพื่อค้นพาพื้นที่ปลอดภัย 13 ข้อ ยกตัวอย่างเช่น ผู้ปกครอง
เพื่อน หรือครูชมเชยคุณในเรื่องใดบ่อยที่สุด คุณชอบทำอะไรมากที่สุด
อะไรที่ปลอบประโลมจิตวิญญาณของคุณและทำให้คุณทุ่มเทกายใจจนลืมทุกอย่างไปหมด
เป็นต้น
คุณนิคบอกว่า
หลายคนที่ถูกรังแกกลายเป็นอันธพาลเสียเอง สุดท้ายเป็นวงจรอุบาทว์ จึงมีความตั้งใจเขียนหนังสือเล่มนี้เพื่อทำลายวงจรนี้
พวกเราทุกคนที่อ่านหนังสือเล่มนี้ก็เป็นส่วนหนึ่งในการผลักดันเรื่องนี้
ขอให้ช่วยกันแบ่งปันสิ่งที่ได้เรียนรู้ให้กับเพื่อน พี่น้อง ผู้ปกครอง ครู
และใครก็ได้ที่คิดว่าจะมีประโยชน์ ติดตามเรื่องราวของคุณนิคได้ที่ www.facebook.com/nickvujicic
ยังมีหนังสือดี
ๆ อีกหลายเล่มที่ปลูกฝังให้เราอยู่ร่วมกับคนที่ต่างกับเราได้อย่างสุนทรีย์ เช่น Nancy
The Cat (โดย Ellen
Sim เกี่ยวกับหนูที่อุปถัมภ์แมวเป็นลูก)
เมาคลีลูกหมาป่า (โดย Rudyard Kipling เกี่ยวกับเด็กผู้ชายที่ถูกหมาป่าอุปถัมภ์) คิดแตกต่างอย่างสร้างสรรค์
(โดย Hong Seo-yeo
เกี่ยวกับเรื่องราวของบุคคลสำคัญของโลกที่มองต่างมุม เช่น บีโทเฟน ดาวินชี
เป็นต้น) ลูกเป็นคนพิเศษนะ (โดย Ann
Meek เกี่ยวกับเด็กที่มักถูกเพื่อนกีดกันไม่ให้เล่นด้วย)