8th Wonder of the World
โดย คิม จงสถิตย์วัฒนา kim@nanmeebooks.com
ไม่ว่าหนังสือ “Discover New Zealand Travel Guide” โดย Lonely
Planet” และ “ล่าขุมทรัพย์สุดขอบฟ้า” โดย Gomdori Co. จะดีแค่ไหน แต่ก็ไม่สามารถสะท้อนถึงความมหัศจรรย์ของดินแดนกีวีอย่างนิวซีแลนด์ได้
จึงขอนำความประทับใจมาเล่านะคะ
· เที่ยว Mou Waho Island Nature Reserve (ทะเลสาบบนเกาะ ที่อยู่ในทะเลสาบบนเกาะ ที่อยู่ในทะเลสาบบนเกาะ ที่อยู่ในทะเล)
กับ Chris Riley เจ้าของรางวัลท่องเที่ยวแบบรักษาธรรมชาติ
คอนเซ็ป คือ “เกาะจะต้องมีสภาพที่ดีขึ้นกว่าก่อนมา” ครั้งนี้เราเป็นกลุ่มท่องเที่ยวที่
6,0001 ที่ได้ปลูกต้น Totara บนเกาะนี้
สิ่งที่น่าสนใจคือ ไม่ใช่อยากปลูกอะไรก็ปลูก คริสต้องขอใบอนุญาตปลูกต้นไม้บนโมวาโฮ
โดยต้องเอาเมล็ดที่ร่วงบนเกาะไปเพาะต้นกล้าที่บ้าน แล้วค่อยมาลงดินบนเกาะตามเดิม
ตอนที่คนยุโรปมานิวซีแลนด์ใหม่ ๆ เอาต้นสน Racliata
มาปลูกเยอะมาก หนามและรูปทรงของมันทำให้นกไม่สามารถวางไข่ได้อย่างปลอดภัย หกปีที่ผ่านมา
รัฐบาลจึงต้องทะยอยตัดต้นสนนี้กว่าหกพันต้น (ยังไม่หมด) เพราะไม่งั้นจะปกคลุมไปทั้งเกาะภายในปี
2020 สะท้อนให้คิดว่า ต้นไม้ที่พวกเราไป “ปลูกป่า”
มันถูกกับระบบนิเวศเดิมหรือไม่
· การอนุรักษ์สัตว์สงวนบนโมวาโฮ เช่น นก Weka ที่แสนเด๋อ (ซื่อมากจนถูกกิน) และแมลง Weta (ที่ฟื้นคืนชีพได้หลังจากถูกแช่แข็งนานกว่าหกร้อยปี!) เจ้าหน้าที่อุทยานจะวางกับดัก (ไข่สด เปลี่ยนทุกห้าสัปดาห์) ไว้ทั่วเกาะ
เพื่อจับตัวเพียงพอนหางสั้น ซึ่งว่ายน้ำข้ามทะเลสาบมากิน Weka (สุดยอดไหมคะ) และในการอนุรักษ์แมลง Weta นักเรียนจาก
Mount Aspiring College ออกแบบและสร้าง Weta Motel 40 หลัง เพื่อช่วยป้องกันไม่ให้นก (รวมถึง
Weka) กิน “เทพเจ้าแห่งความอัปลักษณ์” (สมญานามที่ชนเผ่าเมารีตั้งให้)
ถือว่าเป็นโครงงาน STEM ชั้นเลิศ
· สัมผัสเสียงดังกัมปนาทและพลังของน้ำตก จนเปียกไปทั้งตัวใน Milford Sound ที่ Fjordland
National Park ทำให้รู้ซึ้งว่ามนุษย์เราเป็นเพียงเศษธุลีของจักรวาล
ช่างมหัศจรรย์เหลือเกิน แต่ที่น่าสนใจก็คือ ถึงแม้เราจะเห็นน้ำตกนับพันสาย แต่มีของจริงเพียงสามสาย
นอกนั้นคือน้ำฝน (เยอะและแรง) ที่ตกลงมาตามร่องบนภูเขา ซึ่งจะเปลี่ยนเส้นทางไปเรื่อย
ๆ ที่นี่ฝนตกเยอะมาก ประมาณ 10 เมตรต่อปี (ปกติเขาจะวัดเป็น มม.) มากเกือบหนึ่งเท่ากว่าป่าอะเมซอนเสียอีก
· เดินขึ้นเขา Key Summit ใน Fjordland
National Park ถึงแม้ไม่เห็นวิวอะไรเพราะหมอกบัง แต่การที่เดินจนสุด
เติมเต็มความภูมิใจ ตอกย้ำว่า เวลาเราจะทำอะไร ต้องทำจนสุด อย่ามีข้ออ้าง ทำครึ่ง
ๆ กลาง ๆ
·
ผจญสายฝนในหุบเขา
Hooker Valley ที่ Mount Cook เพราะไม่เคยเดินในหุบเขา
และเพราะเดินจนสุด ไม่ยอมแพ้เดินกลับทั้ง ๆ ที่เปียกและหนาวมาก ทำให้ได้ไปเจอทะเลสาบจากธารน้ำแข็ง
น้ำอร่อยมากเช่นกัน
·
เดินบนธารน้ำแข็ง
Tasman ด้วยรองเท้าหนามกับ Charlie Hobbs
ไกด์ผู้มากประสบการณ์แสนถ่อมตน (อดีตหัวหน้าหน่วยกู้ภัยในแอนตาร์ติกาและอีกมากมาย)
ประทับใจความอึดของเขาในการสู้รบกับรัฐบาลเป็นสิบปี กว่าจะเปิดร้านอาหาร
The Old Mountaineer ด้วยปัญหาข้อระเบียบที่อยุติธรรมและมีผลประโยชน์ทับซ้อนกับ
The Hermitage ซึ่งผูกขาดกิจการในอุทยาน
คงไม่มีประเทศไหนที่ไม่มีปัญหานี้ เส้นใหญ่เท่านั้นถึงจะรุ่งเรือง
(น้ำอร่อยอีกแล้ว)
· ฟันยัค (Funyak –
คล้ายล่องแก่งบนเรือยาง) บนแม่น้ำ Dart River
เพราะเป็นครั้งแรกที่ได้เห็นลักษณะแม่น้ำแบบ Braided River (เกิดขึ้นจากธารน้ำแข็ง
มีเฉพาะในเกาะใต้ของนิวซีแลนด์ อะแลสกา แคนาดา หิมาลัย) และพบว่าน้ำใน Dart River ช่างอร่อยเหลือเกิน
ไกด์ทุกคนต้องผ่านการเรียนเรื่องระบบแม่น้ำอย่างดี เพื่อสามารถกู้ภัยได้ทันที
ทำให้เห็นว่าโลกนี้มีหลายวิชาชีพเหลือเกิน และทุกวิชาชีพต้องมีความรู้ การฝึกซ้อม
และการประเมินคุณภาพ
· เผชิญกับความกลัวตอนกระโดดบันจี้จากสะพานคาวาราว ก่อนจะกระโดด ดิฉันหันไปบอกเจ้าหน้าที่ว่า
“ฉันคงทำไม่ได้แน่ ๆ” แต่พอเขาบอกว่า “เธอทำได้แน่นอน เงยหน้าขึ้น แล้วกระโดด”
ก็ทำได้
สุดท้าย ขอยกนิ้วโป้งพร้อมยืมสมญานามที่ Riyadh Kipling มอบให้นิวซีแลนด์ว่า
“8th Wonder of the World”!
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น