ก่อน คริสโตเฟอร์ โคลัมบัส ค้นพบอเมริกา
คนสเปนคิดมาตลอดว่ามหาสมุทรแอตแลนติกคือ ขอบโลก ไม่มีอะไรหลังจากนั้น สัญลักษณ์ “PLVS VLTRE” หรือ Beyond
Boundary จึงปรากฏอยู่ทั่วห้องโถงของพระราชวังอัลฮัมบรา (Alhambra) ในเมืองกรานาดา ประเทศสเปน
เพื่อ ตอกย้ำว่ามีอะไรเหนือความคาดหมายรอเราอยู่เสมอ
หลายครั้งที่เราคิดว่า ทำดีที่สุดแล้ว ได้แค่นี้ มักจะมีเซอร์ไพรส์ให้กับชีวิต
จะเซอร์ไพรส์ด้วยโชคชะตาหรือด้วยหยาดเหงื่อ คงต้องตอบกันเองนะคะ
รู้ไหมคะว่า สเปนตอนใต้เคยถูกปกครองโดยชาวมุสลิม หลายร้อยปีเลยนะคะ
การมาเที่ยวสเปนกับเพื่อนรักครั้งนี้ ประทับใจอัลฮัมบรามากที่สุดค่ะ
อัลฮัมบราถูกสร้างโดยราชวงศ์นาซริดในปี 1237 ใช้เวลาสร้างกว่า
300 ปี ยิ่งใหญ่อลังการณ์ ทั้งเมืองเป็นชาวมุสลิม
ไกด์ของเราบอกว่าชาวมุสลิมรักการอ่าน มีทักษะด้านภาษา
เรียนรู้นวัตกรรมของทุกอารยธรรมเพื่อนำมาปรับใช้กับเมือง
ที่โดดเด่นคงเป็นระบบชลประทานของเมือง ส่งน้ำจากแม่น้ำดารอสให้คนทั้งเมืองใช้ แยกระบบน้ำดีน้ำเสีย
ทำความสะอาดทางน้ำด้วยระบบเขื่อน ทำให้ปลอดโรคและแลดูสวยงาม
เมืองนี้เต็มไปด้วยวัฒนธรรม เป็นหลงไหลของศิลปินและนักกวี หากบ้านไหนไม่มีลูกชาย พ่อแม่ทุ่มเรื่องการศึกษาให้ลูกสาว ฮาฟซา อัล รัคคูนียา กวีสาวชื่อดังในสมัยนั้นต่อยอดความสามารถจนเป็นนักการเมืองได้ด้วยซ้ำ
ในปี 1942 กษัตริย์เฟอร์นานโดและราชินีอิซาเบลขยายดินแดน
เปลี่ยนกรานาดาให้เป็นเมืองคาทอลิค ตอนแรกให้เวลา 40
ปีในการเปลี่ยนศาสนา เพราะรู้ดีว่าไม่สามารถเปลี่ยนวิถีได้ในข้ามคืน อย่างไรก็ตาม
ด้วยนโยบายที่เข้มข้นขึ้นของกษัตริย์องค์ต่อมา
มีการขับไล่ชาวมุสลิมออกจากสเปนทั้งหมด
และรู้ไหมว่า เมื่อ คริสโตเฟอร์ โคลัมบัส
เสนอโปรเจคใหญ่ขอเงินพระราชินีอิซาเบลออกเรือสำรวจอินเดีย
พระราชินีอิซาเบลต้องขายเครื่องเพชรส่วนตัวมากมาย เพราะหมดตัวจากการทำสงคราม
แต่ด้วยความเชื่อและศรัทธา ทุ่มสุดตัว ทำให้ได้ค้นพบอเมริกา (ด้วยความบังเอิญ!)
ประวัติศาสตร์เรื่องนี้น่าสนใจมากนะคะ แต่คงไม่ได้เล่าตอนนี้ สำคัญคือ
ทุกอย่างเกิดขึ้นได้ค่ะ
กลับมาสู่โลกปัจจุบันนะคะ ตอนนี้ดิฉันนั่งเขียนบทความข้างแม่น้ำดารอส
วันนี้วันเสาร์ มีศิลปินมาออกร้านที่ตลาดนัดมากมาย มีขายภาพเขียน เล่นดนตรีขายซีดี
รับจ้างเขียนบทกลอน บรรยากาศดีมากค่ะ ในขณะเดียวกัน มีขอทานเดินขอเงิน ทำให้สะกิดใจว่า
เราสามารถกำหนดโชคชะตาของเราได้เอง เลยคุยกับเพื่อนว่า หากเราขวนขวายหาวิชาชีพ
เราไม่อดตาย แต่หากเรายอมแพ้ต่ออุปสรรค ไม่ pro-active รอคอยความเห็นใจจากสังคม
คงไม่รอด
ดิฉันพักที่โรงแรมคาซามอริก้า รีวิวใน Trip Advisor ดีมากค่ะ เป็นโรงแรมเล็ก
ๆ มีพนักงาน 1 คน ทำได้ทุกอย่าง ทีแรกไม่กล้าขอความช่วยเหลือ
เพราะคิดว่าโรงแรมเล็กแบบนี้น่าจะต้องช่วยเหลือตัวเองเป็นหลัก ที่ไหนได้
เขาช่วยดิฉันหาตั๋วเข้าอัลฮัมบรา (ปกติต้องจองล่วงหน้าเป็นเดือน) หาไกด์
แนะนำโน่นนี่อย่างดี จนต้องยกนิ้วให้
ในเมืองคอร์โดบา ดิฉันก็พักโรงแรมเล็กเหมือนกันค่ะ มีแค่ 10 ห้อง
แต่พนักงานดีสุดยอด ตอนขับรถเจอทางตัน คือ ถนนเล็กมากจนไปต่อไม่ได้
เพื่อนวิ่งไปบอกที่โรงแรม เขาวิ่งออกมา ขับรถแทนให้จนถึง แล้วดูแลดี พาทัวร์โรงแรมอย่างภูมิใจ
พาซื้อตั๋วรถทัวร์ พนักงาน 1 คนทำได้ทุกอย่าง
ทั้งขับรถวาเล่ท์ check-in ทำอาหารเช้า คือเต็มที่มากแต่สุดท้ายก็มาพบประสบการณ์ที่ขัดแย้งค่ะ
ดิฉันเดินหลงทางในเมืองเก่า มืดมากน่ากลัว มีร้านอาหารหนึ่งไม่มีคนเลย
สกปรกและเก่า เจ้าของนั่งดูทีวี ดิฉันจึงเข้าไปถามทาง เขาถามกลับว่า ดิฉันจะสั่งกาแฟไหม
เมื่อดิฉันบอกว่าไม่ได้สั่ง ขอถามทาง เขาบอกว่าที่นี่ไม่ใช่สำนักงานท่องเที่ยวนะ
เป็นร้านอาหาร ไม่บอก ให้ออกไป เสียความรู้สึกมากค่ะ เมื่อถึงโรงแรม
เห็นความแตกต่างอย่างสิ้นเชิง ก่อนลาจาก โรงแรมขอร้องให้ช่วยเขียนรีวิวในเว็บ Trip Advisor
ซึ่งดิฉันเขียนให้อย่างยินดี
ทั้งสองโรงแรมนี้เป็นตัวอย่างของผู้มีทัศนคติแบบผู้ชนะ คือ
ท่ามกลางเศรษฐกิจย่ำแย่ของสเปน คิดนอกกรอบ ทำดีที่สุด บริการเหนือความคาดหมาย ทำให้มีการบอกต่อความประทับใจแบบปากต่อปาก
ธุรกิจไปได้แน่นอน ทั้งสองที่แขกเต็มทุกห้อง ไม่เหมือนร้านอาหารใจร้าย นั่งรอแขก
ไม่ปรับปรุงพัฒนา ไม่แปลกใจที่ไม่มีลูกค้า
ในยุคนี้ ทุกคนลำบากหมด ทั้งเรื่องส่วนตัวและเรื่องธุรกิจ ตอนนี้ต้องคิดต่อยอด
ตั้งคำถามว่า “ขีดจำกัด” ของเราอยู่ที่ไหน จะก้าวข้ามจุดนั้นเพื่อหา
“พลังที่ซ่อนอยู่” อย่างไร ที่เราบอกตัวเองว่าทำดีที่สุดแล้วคือที่สุดแล้วหรือไม่
จึงขอปิดท้ายบทความชิ้นนี้ด้วยคำที่พบในอัลฮัมบรานะคะ
PLVS
VLTRE … ไร้ขีดจำกัด … Beyond Boundary
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น