ตอนนี้ดิฉันอยู่ที่เมืองนูเรมเบิร์ค ประเทศเยอรมนี ค่ะ ดิฉันมาดูงาน Toy
Fair ที่ใหญ่ที่สุดในโลก ตอนนี้เรากำลังขยายงาน
เสาะหาสื่อการเรียนรู้จากประเทศต่าง ๆ ไปนำเสนอให้โรงเรียนไทย ก่อนงานนี้ก็เพิ่งเดินทางมาจากงาน
BETT Show ที่ลอนดอนค่ะ เป็นงานแสดงเทคโนโลยีเพื่อการศึกษา
ดิฉันนั่งเครื่องบินและรถไฟประมาณ 5 ต่อ หิ้วกระเป๋าหนัก (มากกกกกส์)
กว่าจะถึงโรงแรมก็ประมาณ 12 ชั่วโมงค่ะ
ดิฉันเดินเที่ยวงาน Toy Fair เกือบทั้งวัน เริ่มเกิดอาการวิตก
ทำไมเราไม่เจอสิ่งที่ถูกใจ ไม่ใช่ว่าไม่มีอะไรดีนะคะ ทุกอย่างน่ารักมากค่ะ แต่ดิฉันมีความรู้สึกคล้ายกับเวลาไปดูงาน
BETT Show คือ มันง่ายเหลือเกินที่จะทำให้ภายนอกดูดี หวือหวา แต่การจะทำให้ภายในดีด้วยนั้นยากเหลือเกิน
ดิฉันกำลังเสาะหาสื่อการเรียนรู้ที่ไม่ใช่แค่สื่อ แต่มันจะต้องสามารถพัฒนากระบวนการเรียนรู้ให้กับเด็กและครูได้ด้วย
ระหว่างที่ดิฉันกำลังเซ็ง...ดิฉันก็ได้พบ Dusyma – my
love at first sight บริษัทนี้ทำสื่อการเรียนรู้มายาวนานกว่า 90 ปี
ตอนที่ดิฉันเห็นบู๊ทนี้ เห็นคนกลุ่มหนึ่งกำลังเล่นกับโต๊ะทรายที่มีไฟส่องขึ้นมา
ดิฉันจำได้ว่านี่คือสื่อการเรียนรู้ตามรูปแบบของ Reggio
นักการศึกษาทางเลือกชื่อดังของอิตาลี จึงคิดว่าบู๊ทนี้ไม่ธรรมดาแน่ ๆ
เจ้าหน้าที่ทุกคนก็น่ารักมาก พยายามแนะนำว่าสื่อแต่ละชิ้นมีคุณค่าอย่างไร
ดิฉันอ่านแค๊ตตาล๊อกก็รู้สึกประทับใจมาก เพราะเขาไม่เพียงเขียนคุณลักษณะและสรรพคุณของสื่อ
แต่พูดถึงปรัชญาด้านการเรียนรู้ประกอบทุกชิ้น
เมื่อคืนดิฉันจึงรีบเขียนรายงานไปเล่าให้ทีมงานฟังว่า “พบสิ่งที่ต้องการแล้ว”
รู้ไหมคะว่า คุณแม่ดิฉันตอบมาอย่างไวว่า ท่านเคยเห็นบริษัทนี้ที่
Hong Kong Toy Fair แล้วชอบมาก ๆ เหมือนกัน เริ่มคุยแล้วด้วย แต่ยังไม่มีข้อสรุป ว้าว... Great
minds think alike จริง ๆ 555
เมื่อเช้าดิฉันจึงรีบมาที่ Dusyma เป็นเจ้าแรก คุยมันมากจนดูนาฬิกาอีกทีเวลาผ่านไปแล้ว
2 ชั่วโมง! เจ้าของ Dusyma ชื่อคุณ Lulu Schiller เป็นผู้สืบทอดกิจการรุ่นที่
2 ต่อจากคุณพ่อ ซึ่งก่อตั้งบริษัทขายสื่อเพื่อการเรียนรู้แห่งแรกในเยอรมนี
ดิฉันถามว่าพ่อบังคับให้ทำต่อหรือเปล่า แต่เมื่อมองแววตาคุณ Lulu
แล้วเข้าใจเลยค่ะว่าทำไมคุณ Lulu บริหาร Dusyma มา 36
ปีแล้วขยายงานได้ยิ่งใหญ่ขนาดนี้ จนตอนนี้นอกจากจะทำสื่อสำหรับเด็ก
ยังขยายไปสู่สื่อสำหรับคนชราอีกด้วย
“เด็กทุกคนมีสิทธิที่จะได้ความเคารพเท่าเทียมกัน ไม่ว่าจะเกิดมาชาติไหนก็ตาม ... หัวใจฉันเบิกบานด้วยความสุขเมื่อเห็นเด็ก ๆ ใช้สื่อของ Dusyma … อนาคตของเราต้องการเด็กที่มีความคิดสร้างสรรค์ ตอบสนองรวดเร็ว ชาญฉลาด และรับผิดชอบต่อโลกของเรา เด็กเยอรมันไม่ใช่เพียงแค่เด็กเยอรมัน เด็กไทยไม่ใช่เพียงแค่เด็กไทย แต่เป็นเด็กของโลก เราต้องสร้างเด็กที่ฉลาด ที่มีรากเหง้าที่แข็งแรง พร้อมที่จะขยายปีกบิน ไอน์สไตน์เคยบอกว่า ‘เมื่อเราเรียนรู้ที่จะรักตัวเอง เราจะมีความสามารถและพลังที่จะรักผู้อื่นได้’”
เมื่อคุณ Lulu พูดถึงเรื่องนี้ ดิฉันขนลุกเลยค่ะ เกิดเหตุการณ์
déjà vu เพราะเมื่อวานเพื่อนที่บริษัทส่งใบแนะนำหนังสือเรื่อง
“ฉันชอบตัวเองจังเลย” ไปให้ลูกค้าทาง LINE ดิฉันก็เขียนต่อลงไปเพื่ออธิบายว่า
เราไม่ต้องการทำให้เด็กหลงตัวเองนะคะ แต่เราต้องการปลูกฝังให้เด็กคิดบวก เชื่อมั่นในตัวเอง
รักตัวเอง เพื่อที่ต่อไปจะได้ไม่ตกเป็นเหยื่อของการ bully (ถูกเพื่อนรังแก)
หรือ peer pressure (ถูกกดดันให้ทำสิ่งที่ไม่อยากทำ)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น