วันอาทิตย์ที่ 22 มิถุนายน พ.ศ. 2557

Love at First Sight @ Nuremberg

ตอนนี้ดิฉันอยู่ที่เมืองนูเรมเบิร์ค ประเทศเยอรมนี ค่ะ ดิฉันมาดูงาน Toy Fair ที่ใหญ่ที่สุดในโลก ตอนนี้เรากำลังขยายงาน เสาะหาสื่อการเรียนรู้จากประเทศต่าง ๆ ไปนำเสนอให้โรงเรียนไทย ก่อนงานนี้ก็เพิ่งเดินทางมาจากงาน BETT Show ที่ลอนดอนค่ะ เป็นงานแสดงเทคโนโลยีเพื่อการศึกษา ดิฉันนั่งเครื่องบินและรถไฟประมาณ 5 ต่อ หิ้วกระเป๋าหนัก (มากกกกกส์) กว่าจะถึงโรงแรมก็ประมาณ 12 ชั่วโมงค่ะ

ดิฉันเดินเที่ยวงาน Toy Fair เกือบทั้งวัน เริ่มเกิดอาการวิตก ทำไมเราไม่เจอสิ่งที่ถูกใจ ไม่ใช่ว่าไม่มีอะไรดีนะคะ ทุกอย่างน่ารักมากค่ะ แต่ดิฉันมีความรู้สึกคล้ายกับเวลาไปดูงาน BETT Show คือ มันง่ายเหลือเกินที่จะทำให้ภายนอกดูดี หวือหวา แต่การจะทำให้ภายในดีด้วยนั้นยากเหลือเกิน ดิฉันกำลังเสาะหาสื่อการเรียนรู้ที่ไม่ใช่แค่สื่อ แต่มันจะต้องสามารถพัฒนากระบวนการเรียนรู้ให้กับเด็กและครูได้ด้วย

ระหว่างที่ดิฉันกำลังเซ็ง...ดิฉันก็ได้พบ Dusyma – my love at first sight บริษัทนี้ทำสื่อการเรียนรู้มายาวนานกว่า 90 ปี ตอนที่ดิฉันเห็นบู๊ทนี้ เห็นคนกลุ่มหนึ่งกำลังเล่นกับโต๊ะทรายที่มีไฟส่องขึ้นมา ดิฉันจำได้ว่านี่คือสื่อการเรียนรู้ตามรูปแบบของ Reggio นักการศึกษาทางเลือกชื่อดังของอิตาลี จึงคิดว่าบู๊ทนี้ไม่ธรรมดาแน่ ๆ เจ้าหน้าที่ทุกคนก็น่ารักมาก พยายามแนะนำว่าสื่อแต่ละชิ้นมีคุณค่าอย่างไร ดิฉันอ่านแค๊ตตาล๊อกก็รู้สึกประทับใจมาก เพราะเขาไม่เพียงเขียนคุณลักษณะและสรรพคุณของสื่อ แต่พูดถึงปรัชญาด้านการเรียนรู้ประกอบทุกชิ้น เมื่อคืนดิฉันจึงรีบเขียนรายงานไปเล่าให้ทีมงานฟังว่า “พบสิ่งที่ต้องการแล้ว”

รู้ไหมคะว่า คุณแม่ดิฉันตอบมาอย่างไวว่า ท่านเคยเห็นบริษัทนี้ที่ Hong Kong Toy Fair แล้วชอบมาก ๆ เหมือนกัน เริ่มคุยแล้วด้วย แต่ยังไม่มีข้อสรุป ว้าว... Great minds think alike จริง ๆ 555
เมื่อเช้าดิฉันจึงรีบมาที่ Dusyma เป็นเจ้าแรก คุยมันมากจนดูนาฬิกาอีกทีเวลาผ่านไปแล้ว 2 ชั่วโมง! เจ้าของ Dusyma ชื่อคุณ Lulu Schiller เป็นผู้สืบทอดกิจการรุ่นที่ 2 ต่อจากคุณพ่อ ซึ่งก่อตั้งบริษัทขายสื่อเพื่อการเรียนรู้แห่งแรกในเยอรมนี ดิฉันถามว่าพ่อบังคับให้ทำต่อหรือเปล่า แต่เมื่อมองแววตาคุณ Lulu แล้วเข้าใจเลยค่ะว่าทำไมคุณ Lulu บริหาร Dusyma มา 36 ปีแล้วขยายงานได้ยิ่งใหญ่ขนาดนี้ จนตอนนี้นอกจากจะทำสื่อสำหรับเด็ก ยังขยายไปสู่สื่อสำหรับคนชราอีกด้วย
“เด็กทุกคนมีสิทธิที่จะได้ความเคารพเท่าเทียมกัน ไม่ว่าจะเกิดมาชาติไหนก็ตาม ... หัวใจฉันเบิกบานด้วยความสุขเมื่อเห็นเด็ก ๆ ใช้สื่อของ Dusyma … อนาคตของเราต้องการเด็กที่มีความคิดสร้างสรรค์ ตอบสนองรวดเร็ว ชาญฉลาด และรับผิดชอบต่อโลกของเรา เด็กเยอรมันไม่ใช่เพียงแค่เด็กเยอรมัน เด็กไทยไม่ใช่เพียงแค่เด็กไทย แต่เป็นเด็กของโลก เราต้องสร้างเด็กที่ฉลาด ที่มีรากเหง้าที่แข็งแรง พร้อมที่จะขยายปีกบิน ไอน์สไตน์เคยบอกว่า เมื่อเราเรียนรู้ที่จะรักตัวเอง เราจะมีความสามารถและพลังที่จะรักผู้อื่นได้’”
เมื่อคุณ Lulu พูดถึงเรื่องนี้ ดิฉันขนลุกเลยค่ะ เกิดเหตุการณ์ déjà vu เพราะเมื่อวานเพื่อนที่บริษัทส่งใบแนะนำหนังสือเรื่อง “ฉันชอบตัวเองจังเลย” ไปให้ลูกค้าทาง LINE ดิฉันก็เขียนต่อลงไปเพื่ออธิบายว่า เราไม่ต้องการทำให้เด็กหลงตัวเองนะคะ แต่เราต้องการปลูกฝังให้เด็กคิดบวก เชื่อมั่นในตัวเอง รักตัวเอง เพื่อที่ต่อไปจะได้ไม่ตกเป็นเหยื่อของการ bully (ถูกเพื่อนรังแก) หรือ peer pressure (ถูกกดดันให้ทำสิ่งที่ไม่อยากทำ)

อย่างไรก็ดี มานูเร็มเบิร์กครั้งนี้ คุ้มสุดคุ้ม เพราะนอกจากจะได้เจอสื่อการเรียนรู้ที่ถูกใจ ยังได้พบเพื่อนใหม่ ถือเป็นไอดอลอีกคนที่ทำงานด้วยอุดมการณ์ เต็มไปด้วย passion และความศรัทธา

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น